ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
เพื่อพัฒนาแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรสําหรับนักเรียนระดับปฐมวัยในประเด็นต่อไปนี้
1. หาคุณภาพแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรสําหรับนักเรียนระดับปฐมวัย
2. สร้างเกณฑปกติ (norms) และคูมือการใชแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตรสําหรับนักเรียนระดับปฐมวัย
ความสําคัญของการศึกษาค้นคว้า
1. ทําให้ไดแบบทดสอบที่มีคุณภาพไปใชในการวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร ของนักเรียนระดับชั้นปฐมวัย เพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของครูผู้สอนระดับปฐมวัย และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาต่อไป
2. ผลของการวิจัยครั้งนี้ เป็นแนวทางในการสร้างและพัฒนาแบบทดสอบวัดทักษะด้าน อื่น ๆ ต่อไป
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า
1. ประชากรที่ใชในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นปฐมวัย ปที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2548 ของโรงเรียนในสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 จํานวน 2,939 คน (สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1. 2547 : 1)
2. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นปฐมวัย ปที่2 ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2548 ของโรงเรียนในสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา เขต 1 จํานวน 375 คน ซึ่งไดจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (multi - stage random sampling)
3. เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาเป็นแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร จํานวน 7 ฉบับ คือ
3.1 แบบทดสอบทักษะการสังเกต
3.2 แบบทดสอบทักษะการวัด
3.3 แบบทดสอบทักษะการจําแนกประเภท
3.4 แบบทดสอบทักษะการหาความสัมพันธระหว่างมิติกับมิติ
3.5 แบบทดสอบทักษะการใช้ตัวเลข
3.6 แบบทดสอบทักษะการสื่อความหมายจากข้อมูล
3.7 แบบทดสอบทักษะการลงความเห็นจากข้อมูล
4. คุณภาพของแบบทดสอบ
4.1 ความเที่ยงตรง (validity)
4.1.1 ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity)
4.1.2 ความเที่ยงตรงเชิงโครงสราง (construct validity)
4.2 ความยากง่าย (difficulty)
4.3 อํานาจจําแนก (discrimination)
4.4 ความเชื่อมั่น (reliability)
4.5 เกณฑปกติ(norms)
วิธีดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
เก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. ติดต่อโรงเรียนที่ใชเป็นกลุ่มตัวอย่าง ขออนุญาตผู้บริหารโรงเรียนเพื่อกําหนดวันและ เวลาดําเนินการสอบ
2. เตรียมแบบทดสอบใหเพียงพอกับจํานวนนักเรียนที่สอบในแตละครั้ง และวางแผน ในการดําเนินการสอบ
3. อธิบายให้ผู้ดําเนินการสอบเข้าใจวัตถุประสงคและผลที่ได้รับจากการทําแบบทดสอบ
การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช
ในการวิจัยครั้งนี้ผูวิจัยทําการวิเคราะหเครื่องมือโดยหาคุณภาพเครื่องมือ ดังนี้
1. ความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) ใชวิธีการใหผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและผลคะแนนที่ไดจากผู้เชี่ยวชาญคํานวณหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC : index of item - objective congrucnec) (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2539 : 246)
2. ความยากง่ายรายข้อโดยใชเทคนิค 27 เปอรเซ็นต คํานวณโดยใช้สูตรอย่างง่าย (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2538 : 115)
3. อํานาจจําแนกรายข้อโดยใชเทคนิค 27 เปอรเซ็นต คํานวณโดยใช้สูตรอย่างง่าย (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2538 : 216)
4. ความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้าง (construct validity) โดยตรวจสอบสัมประสิทธิ์ความ สอดคล้องภายในระหวางคะแนนเป็นรายข้อกับคะแนนรวมทั้งฉบับ (item - total correlation) ด้วย สัมประสิทธิ์สหสัมพันธอย่างง่ายของเพียรสัน (Pearson,s product - moment correlation coeffcient) (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2536 : 168)
5. ความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ (reliability) ใชวิธีการของคูเดอรริชารดสัน (Kuder Richardson) สูตร KR-20 (ลวน สายยศ และอังคณา สายยศ. 2538 : 168)
6. สร้างเกณฑปกติ (norms) ผูวิจัยไดนําคะแนนของแบบทดสอบแปลงใหเป็นคะแนน ที่ปกติและปรับขยายโดยวิธีกําลังสองต่ําสุด (เสริม ทัศศรี. 2545 : 116 - 120)
สรุปผล
พัฒนาด้านร่างกาย
- กระโดดขาเดียวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
- ได้ซ้อมรับลูกบอลที่กระดอนจากพื้นได้ด้วยมือทั้งสองข้าง
- เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้อย่างต่อเนื่อง
- เขียนรูปสามเหลี่ยมตามแบบได้
- ตัดกระดาษตามแนวเส้นคงที่กำหนด
- ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก ได้ดีเช่นติดกระดุมผูกเชือกรองเท้า
- ยืดตัวคล่องแคล่ว
พัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ
- แสดงอารมณ์ได้สอดคล้องกับสถานการณ์อย่างเหมาะสม
- ชื่นชมความสามารถและผลงานของตนเองและผู้อื่น
- ยึดตนเองเป็นศูนย์กลางน้อยลง
พัฒนาการด้านสังคม
- ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเอง
- เล่นและทำงานโดยมีจุดมุ่งหมายกับผู้อื่น
- พบผู้ใหญ่รู้จักไหว้ทำความเคารพ
- รู้จักขอบคุณเมื่อรับของจากผู้ใหญ่
- รับผิดชอบงานที่ได้มอบหมาย
พัฒนาการด้านสติปัญญา
- บอกความแตกต่างของกินสี เสียงรถรูปร่างจำแนกและ. จัดหมวด สิ่งของได้
- บอกชื่อนามสกุลและอายุของตนเองได้
- พยายามหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตนเอง
- สนทนาโต้ตอบเล่าเป็นเรื่องราวได้
- สร้างผลงานตามความคิดของตนเองโดยมีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและแปลกใหม่
- รู้จักใช้คำถามทำไมอย่างไร
- เริ่มเข้าใจสิ่งที่เป็นนามธรรมอาจนับปากเปล่าได้ถึง 20 สรุปได้ว่าคุณลักษณะตามวัยของเด็กจะมีพัฒนาการตามอายุกูและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องจะต้องจัดประสบการณ์ให้เหมาะสมกับวัยของเด็กเด็กได้รับการพัฒนาที่สะสมและตื่นตามศักยภาพของตนเอง